เกี่ยวกับเรา
รักษาปัญหาเส้นผม
ดูดีทันทีด้วยเทคนิคอำพรางแผล Non-Shaven FUE
การปลูกผมแบบ Non-Shaven เป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ โดยจะเป็นการปลูกผมแบบ FUE หรือ FUE Hair Transplant ซึ่งก็คือการปลูกผมที่จะนำเซลล์ผมบริเวณท้ายทอยมาใช้ในการปลูก (Donor Area) แต่จะเป็นการตัดเฉพาะส่วน ด้วยวิธีเล็มด้วยกรรไกร หรือใช้เครื่องโกนดัดแปลงพิเศษ เพื่อให้ลักษณะผมบริเวณท้ายทอยยังดูเป็นปกติหลังการปลูก
Non-Shaven FUE เป็นเทคนิคปลูกผมที่ช่วยซ่อนแผลจากการปลูกผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถใช้ชีวิตประจำวันในวันต่อมาได้ทันที โดยขั้นตอนในการปลูกแบบ Non-Shaven จะเหมือนกับการปลูกผมเทคนิค FUE แบบ Shaven FUE แต่จะมีความยากและละเอียดอ่อนมากกว่า เนื่องจากในบริเวณ Donor Area เป็นจุดที่ต้องนำกอเส้นผมออกมา ทำให้ยังคงมีผมเส้นยาวปะปนอยู่ การเจาะเก็บกราฟด้วยวิธีนี้จึงต้องอาศัยความแม่นยำของแพทย์ร่วมกับการใช้อุปกรณ์ที่พัฒนามาโดยเฉพาะ
เทคนิคนี้สามารถเก็บกราฟได้มากกว่าวิธีผมยาว แต่ไม่มากเท่าวิธีโกนหมดทั้งศีรษะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผมโดยไม่ให้คนรอบข้างสังเกตเห็นร่องรอยการผ่าตัดอย่างชัดเจน เนื่องจากยังคงมีผมยาวปกคลุมบริเวณผู้บริจาค การเก็บกราฟจึงต้องใช้ความละเอียดสูง แพทย์ต้องมีทักษะในการนำกราฟออกจากบริเวณที่ยังมีเส้นผมอยู่โดยไม่ทำลายกราฟหรือรบกวนรูขุมขนที่เหลืออยู่ จึงต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทางและทีมที่มีประสบการณ์
Bangkok Hair Clinic ศูนย์ศัลยกรรมปลูกผมถาวรที่มีประสบการณ์มากว่า 10 ปี พร้อมให้บริการปลูกผมแบบ FUE ในราคาที่คุณเข้าถึงได้ โดยทีมแพทย์
ขั้นตอนวิธีการปลูกผม Non-Shaven FUE
ข้อดีของการปลูกผมถาวรแบบ Non-Shaven FUE:
- การปลูกผมแบบ FUE สร้างแนวผมที่ดูกลมกลืนไปกับผมจริง
- การปลูกผมแบบ FUE มีราคาที่คุ้มค่า ด้วยกระบวนการที่ช่วยซ่อนแผลบริเวณหลังศีรษะได้อย่างแนบเนียน ช่วยเพิ่มความมั่นใจ
- ระยะการพักฟื้นสั้น ทำให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติโดยไม่ต้องกังวล วันต่อมาสามารถสระผมได้
- ใช้เครื่องเจาะกราฟที่ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะ เพื่อลดการพันของเส้นผม เพิ่มโอกาสในการเก็บรักษากราฟให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์
ข้อจำกัดของการปลูกผมเทคนิค Non-Shaven FUE:
- แพทย์สามารถเก็บกราฟได้ในจำนวนจำกัด คือไม่เกิน 1,500 – 2,000 กราฟ ขึ้นอยู่กับขนาดศีรษะของผู้รับการรักษา
- ใช้เวลานานกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกผมแบบ Shaven FUE
- การดูแลแผลหลังจากการปลูก ทำได้ยากกว่า
ใครบ้างที่เหมาะสมกับการปลูกผมด้วยเทคนิค Non-Shaven FUE ?
- เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่มีปัญหาผมเถิกเว้า หน้าผากกว้าง ผมบาง
- ผู้รับการรักษาที่ต้องใช้กราฟจำนวนไม่มากนัก
- ผู้รับการรักษามีผมยาวเพียงพอที่จะปกปิดแนวผมที่ถูกตัดได้
- ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้อื่นเห็นแผล หรือมีความกังวลกับการโกนผมหลังศีรษะ
การทำ Non-Shaven FUE ใช้เวลานานเท่าใด ?
ระยะเวลาในการทำ Non-Shaven FUE ต่อหนึ่งครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 6-8 ชั่วโมง หรืออาจใช้เวลามากกว่านั้นตามลักษณะอาการ จำนวนกราฟ และความยากง่ายของแต่ละบุคคล ในบางกรณีแพทย์อาจประเมินว่าต้องเข้ารับการรักษามากกว่า 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการปลูกผม ความเพียงพอของจำนวนเส้นผมด้านท้ายทอย รวมถึงความแข็งแรงของสภาพเซลล์รากผม โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้ทราบเพื่อให้คนไข้ตัดสินใจและเตรียมการต่อไป
การทำ Non-Shaven FUE อันตรายหรือไม่และเจ็บปวดระดับใด ?
การทำ Non-Shaven FUE เป็นเทคนิคการปลูกผมที่จะนำเซลล์ผมบริเวณท้ายทอยมาใช้ในการปลูก โดยระหว่างเข้ารับการรักษาจะมีการฉีดยาชาเฉพาะจุดก่อน ดังนั้น ความเจ็บปวดจึงถูกบรรเทาให้น้อยลง และสามารถสระผมได้ทันทีหลังเสร็จสิ้นกระบวนการ จึงเป็นวิธีการปลูกผมสมัยใหม่ที่มีความเสี่ยงน้อย ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ปลอดภัย เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และไม่ต้องพักฟื้นนาน
สำหรับใครที่ต้องการรักษาผมร่วงด้วยวิธีการปลูกผมถาวรแบบ FUE ในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมแพทย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ที่ Bangkok Hair Clinic พร้อมให้บริการและวางแผนการรักษาอย่างมืออาชีพ ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีอันทันสมัยครบครัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการนัดหมายเพื่อรับคำปรึกษาจากแพทย์ ติดต่อเราได้ผ่านช่องทางด้านล่างนี้
- Line : @bangkokhairclinic (มี @ ด้วย)
- โทร : 02 118 7386, 064 196 3539
- อีเมล : bangkokhairclinic@gmail.com
FAQ
Q: หลังปลูกผมถาวรเสร็จสิ้นจะหลงเหลือรอยแผลเป็นไหม ?
A: การเกิดรอยแผลเป็นหลังการปลูกผมถาวรเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าปลูกผมด้วยวิธี FUE รอยแผลเป็นจะเล็กมากราว 0.7-1.0 มิลลิเมตร หรือแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ส่วนการปลูกผมด้วยวิธีอื่นอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่ขนาดใหญ่กว่า แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้สามารถอำพรางรอยแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจภายหลังการปลูกผมย้ายเซลล์รากผม
Q: การปลูกผมเจ็บไหม ?
A: ไม่ว่าจะปลูกผมเทคนิค FUE หรือ FUT จะมีความเจ็บปวดเล็กน้อยในตอนฉีดยาชาก่อนเริ่มกระบวนการ ส่วนระหว่างกระบวนการ ผู้เข้ารับหัตถการจะรู้สึกชา
Q: การปลูกผมเทคนิค FUE มีขั้นตอนอย่างไร ?
การปลูกผมแบบ FUE คือ กระบวนการที่ต้องวางแผนอย่างเป็นระบบ เพราะต้องใช้ความละเอียดในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียง โดยขั้นตอนหลักประกอบด้วย
- การวางแผนร่วมกับแพทย์ โดยแพทย์จะทำการวิเคราะห์สภาพหนังศีรษะและเส้นผมของผู้เข้ารับการรักษาอย่างละเอียด เพื่อกำหนดจำนวนกราฟและวางแผนขั้นตอนการรักษาให้เหมาะสมที่สุด
- การโกนผมบางส่วน เพื่อให้สามารถเก็บรากผมได้สะดวกและแม่นยำมากขึ้น แต่สำหรับเทคนิค Non-Shaven FUE จะเป็นการตัดเฉพาะส่วนที่จำเป็นโดยใช้กรรไกร หรือเครื่องโกนพิเศษ
- การเก็บรากผมจากบริเวณ Donor Area เช่น ท้ายทอย ซึ่งเป็นบริเวณที่เส้นผมมีความแข็งแรงและทนทานต่อการหลุดร่วง กระบวนการนี้จะทำอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาคุณภาพของรากผมให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
- การเตรียมรากผมเพื่อปลูก จะถูกนำไปจัดเตรียมในห้องปฏิบัติการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้พร้อมสำหรับการปลูกผมในบริเวณที่ต้องการ โดยจะต้องทำอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของเซลล์รากผม
- การปลูกผมลงในบริเวณที่ต้องการ แพทย์จะใช้เครื่องมือปลูกผมที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการฝังรากผมลงในหนังศีรษะ โดยคำนึงถึงทิศทาง ความลึก และมุมของเส้นผม เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติและกลมกลืนกับเส้นผมเดิม
