BANGKOK HAIR CLINICคลินิกให้บริการปลูกผมถาวร ใจกลางทองหล่อ

ทั้งเทคนิค FUT และ FUE คือกระบวนการปลูกผมที่เป็นการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณผมถาวรที่ด้านหลังของศีรษะ (Donor Area) มาเพื่อใช้ในการผ่าตัดปลูกผมในบริเวณที่เกิดปัญหาหรือต้องการ (Recipient Area) โดยทั้ง 2 เทคนิคมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

• Follicular Unit Transplantation (FUT) หรือ “Strip Surgery” เป็นกรรมวิธีการปลูกผมที่ถูกคิดค้นและใช้อย่างแพร่หลายมาเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งเป็นการผ่าตัดนำผิวหนังส่วนหนึ่งของหนังศีรษะบริเวณ Donor Area ที่มีเส้นผมและรากที่แข็งแรงอยู่ออกมา และไปทำการแบ่งกอผมเพื่อนำไปปลูกถ่ายลงในบริเวณ Recipient Area ทำให้เส้นผมที่โตในบริเวณที่กังวลแข็งแรง ไม่อ่อนไหวต่อการหลุดร่วง จึงเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่เรียกได้ว่าถาวร เนื่องจากมีการผ่าตัดชิ้นผิวหนังออกจากศีรษะ เทคนิค FUT จึงต้องมีการเย็บผิวหนังที่อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นในแนวนอนขนาดเล็กได้ แต่แผลเป็นนี้ สามารถซ่อนด้วยผมที่ยาวออกมาได้ในอนาคต
• Follicular Unit Excision (FUE) เป็นวิธีการปลูกผมที่พัฒนามาใหม่และได้ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบันเพราะเป็นวิธีปลูกผมที่ได้ผลลัพธ์ดี รวดเร็ว และเกิดแผลเล็กมาก จนยากที่จะมองเห็นด้วยตาเปล่า กระบวนการทำ FUE จะคล้ายกับ FUT แต่เปลี่ยนขั้นตอนการเก็บกราฟเป็นการเจาะนำเซลล์รากผมที่แข็งแรงออกมาทีละเซลล์จากบริเวณ Donor Area จากนั้น ทีมแพทย์จะคัดเซลล์รากผมที่สมบูรณ์ไปปลูกยังบริเวณที่ต้องการ โดยแผลที่เกิดขึ้นจะมีขนาดเล็กเพียง 0.6-0.8 มม. และไม่จำเป็นต้องเย็บแผล หลังจากการปลูก 3-6 เดือนผมด้านหลังศีรษะจะยาวออกมาปิดคลุมพื้นที่ให้เต็มเหมือนเดิม จึงเป็นขั้นตอนที่ผู้รับการรักษาส่วนมากเลือกใช้

Bangkok Hair Clinic คลินิกให้บริการปลูกผมถาวรในย่านทองหล่อและสุขุมวิท มีประสบการณ์ในการปลูกผม FUT และ FUE ที่พร้อมดูแลผู้เข้ารับการรักษาทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด โดยแพทย์ผู้มีความชำนาญเฉพาะทาง ทั้งยังได้รับการรีวิวที่ยืนยันถึงความพึงพอใจจากผู้ที่เคยเข้ารับการบริการจากคลินิกดูแลเส้นผมของเรามาก่อน

โดยทั่วไปแล้วการเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมปลูกผมด้วยเทคนิคดังกล่าว สามารถทำได้ในคนทั่วไปที่มีสุขภาพโดยรวมที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิง แต่ผู้รับการรักษาควรเข้าใจก่อนว่าการปลูกผมถาวรไม่ได้เหมาะสำหรับทุกลักษณะผมบางหรือโรคเส้นผม แพทย์ของเราที่ Bangkok Hair Clinic ยินดีให้คำปรึกษาและตรวจสภาพหนังศีรษะ เพื่อนำมาวิเคราะห์และวินิจฉัยอย่างละเอียด โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อวางแนวทางการรักษาที่ถูกต้อง และให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยคุณสามารถเข้ามารับคำปรึกษาฟรี พร้อมตรวจวินิจฉัยเบื้องต้น เพื่อรับข้อมูลที่จะช่วยทำให้คุณเข้าใจแนวทางการรักษา เพื่อให้มั่นใจก่อนที่จะตัดสินใจปลูกผมกับเรา

ที่คลินิกรักษาผมบางผมร่วง Bangkok Hair Clinic แพทย์และทีมงานทุกคนตั้งใจมอบผลการรักษาที่เหมาะสมให้แก่ผู้รับการรักษาทุกท่าน ซึ่งศัลยแพทย์ของเรามีประสบการณ์การออกแบบแนวผมให้เหมาะกับอายุ เชื้อชาติ และเพศมานานกว่า 10 ปี นอกจากนี้ ยังมีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติของเส้นผม จึงให้ความสำคัญกับการรักษาที่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ควบคู่ไปกับการจัดวางแนวผมให้ไปในทิศทางเดียวกันกับแนวผมเก่า เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

เป็นหนึ่งในคำถามที่ถูกถามบ่อยมากที่สุด ซึ่งคำตอบคือเจ็บน้อยมาก เพราะเราได้คิดค้นเทคนิคการฉีดยาชาที่เบา รวดเร็ว และเจ็บน้อยในกระบวนการปลูกผม รวมถึงการทำงานอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดความบอบช้ำหรืออาการเจ็บปวดโดยไม่จำเป็นกับคนไข้

เราต้องการให้ผู้รับบริการปลูกผมทุกคน รู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด ไร้กังวล ตลอดช่วงเวลาก่อนและหลังการปลูก เพราะเราเชื่อว่าการรักษาผมร่วงสามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้โดยไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดเสมอไป

เส้นผมที่ย้ายมาจากการปลูก จะยังคงเติบโตตามธรรมชาติเหมือนเส้นผมปกติ เนื่องจากเป็นการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณผมถาวร (Permanent Zone) จากด้านหลังและด้านข้างของศีรษะ ซึ่งผมบริเวณดังกล่าวนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT) ซึ่งเป็นสาเหตุของการผมร่วงตามกรรมพันธุ์เพศชายที่ทำให้ผมร่วงได้

หนึ่งในสิ่งที่สมาคมแพทย์ปลูกผมนานาชาติต้องการแจ้งให้ผู้ที่สนใจเข้ารับการปลูกผมรู้ก็คือ “การปลูกผมไร้แผลเป็นนั้นไม่มีอยู่จริง” ไม่ว่าจะด้วยเทคนิคใดก็ตาม เนื่องจากรอยแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดนั้น เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สามารถที่จะซ่อน หรือลดจำนวนได้ ดังนั้นที่คลินิกรักษาผมร่วงและผมบาง Bangkok Hair Clinic เราจึงใส่ใจและเข้าใจความรู้สึกของผู้รับการรักษาที่ต้องการให้มีแผลเป็นน้อย เราจึงพิถีพิถันและใช้เทคนิคที่ฝึกฝนมาอย่างชำนาญเพื่อช่วยคุณอำพรางรอยแผล ให้คุณรู้สึกมั่นใจและไม่ต้องกังวลเรื่องแผลที่เกิดขึ้น

ความแตกต่างคือการเลือกใช้เครื่องมือในการปักรากผม (กราฟต์) บนหนังศีรษะ ซึ่งเป็นกระบวนการหนึ่งในการปลูกผมด้วยวิธีการ FUE

สำหรับการปลูกผมด้วยวิธีการ FUE แพทย์สามารถเลือกใช้คีมคีบ Forcep หรือ Implanters (DHI) ในกระบวนการปักรากผม ถึงแม้ว่าคีมคีบจะเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากสำหรับการปักรากผม แต่ปากกานำปลูก Lion Implanters เป็นเครื่องมือที่ได้รับการพัฒนาเพื่อช่วยลดความบอบช้ำของรากผมระหว่างกระบวนการปักรากผม ทั้งนี้ มีการศึกษามากมายที่ยืนยันว่าการใช้เครื่องมือปากกานำปลูก Lion Implanters สามารถเพิ่มอัตราการอยู่รอดของรากผม ลดระยะเวลาการผ่าตัด รวมถึงทำให้ได้เส้นผมที่ดูหนาแน่นมากกว่า และแผลเป็นจะมีขนาดเล็กกว่าปกติ

ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากการรักษา คนไข้จะเริ่มสังเกตเห็นการตกสะเก็ดของหนังศีรษะในบริเวณที่ปลูกผม ซึ่งเป็นกระบวนการรักษาแผลบนผิวหนังตามธรรมชาติของร่างกาย สะเก็ดเหล่านี้จะค่อย ๆ หลุดลอกไปในช่วง 4-14 วันหลังจากการปลูกผม รากผมที่ปลูกไปจะยึดติดแน่นบนหนังศีรษะในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังจากการปลูก จากนั้น เส้นผมจะเริ่มผลัดและหลุดร่วงในช่วงสัปดาห์ที่ 4 หลังจากการปลูก และเส้นผมใหม่จะค่อย ๆ งอกขึ้นตามลำดับในช่วงสัปดาห์ที่ 10-16 และเส้นผมที่ปลูกใหม่แต่ละเส้นนี้จะเจริญเติบโตตามวงจรชีวิตของเส้นผมต่อไป

การเลือกคลินิกรักษาหัวล้าน ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะสิ่งเหล่านี้

• การวินิจฉัยที่แม่นยำ แพทย์ที่มีความชำนาญการด้านศัลยกรรมปลูกผม จะสามารถวินิจฉัยสาเหตุของปัญหาผมร่วงได้อย่างถูกต้อง และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมที่สุด
• ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ แพทย์จะออกแบบแนวไรผมให้เข้ากับรูปหน้าของแต่ละบุคคล และจัดเรียงกราฟต์ผมให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม
• ความปลอดภัยสูง แพทย์ที่มีความชำนาญการด้านการปลูกผม จะช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ และมีการใช้เครื่องมือที่สะอาดและได้มาตรฐาน
• การดูแลหลังการปลูกผม แพทย์จากคลินิกดูแลเส้นผมของเรา จะให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาพักฟื้น เพื่อให้ผมที่ปลูกขึ้นมาแข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุด

สำหรับผู้มีปัญหาผมร่วงหรือผมบาง ระยะเวลาในการปลูกผมจะขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ และจำนวนกราฟต์ที่ต้องปลูก โดยแบ่งออกเป็น ดังนี้

• การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Excision) เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยม โดยใช้เครื่องมือเจาะเอาเซลล์รากผมออกมาทีละกราฟต์ ระยะเวลาจะอยู่ที่ประมาณ 4-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟต์ที่ปลูก
• การปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation) เป็นเทคนิคผ่าตัดเอาหนังศีรษะด้านหลังออกมาเป็นชิ้น และนำมาแบ่งเป็นกราฟต์เพื่อปลูก เวลาในการผ่าตัดจะสั้นกว่าแบบ FUE เล็กน้อย โดยใช้เวลาประมาณ 3-6 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม เวลาที่ใช้ทั้งหมดจะรวมถึงการเตรียมตัวก่อนปลูกและการพักฟื้นหลังปลูกด้วย

จำนวนกราฟต์ที่ใช้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับระดับความบางของผม ขนาดพื้นที่ที่ต้องการปลูก และความหนาแน่นของเส้นผมที่ต้องการ โดยทั่วไป แพทย์จะประเมินจำนวนกราฟต์ที่เหมาะสม โดยดูจากระดับความรุนแรงของภาวะศีรษะล้านซึ่งมีตั้งแต่ระดับ 1 ถึง 7 ตามมาตรวัดของ Norwood Scale โดยจำนวนกราฟต์คร่าว ๆ ที่ใช้ปลูกจะอยู่ระหว่าง 1,500-4,000 กราฟต์

การปลูกผมถาวรในประเทศไทย มีความแตกต่างกันของราคาค่อนข้างมาก โดยมีปัจจัยหลักดังต่อไป

• จำนวนกราฟต์ที่ใช้ ยิ่งใช้จำนวนกราฟต์มาก ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้น
• เทคนิคการปลูกผม โดยแต่ละเทคนิคมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน เช่น เทคนิค FUE ที่ไม่ต้องผ่าตัดอาจมีราคาต่อกราฟต์สูงกว่าเทคนิค FUT
• ชื่อเสียงและประสบการณ์ของแพทย์และคลินิก คลินิกที่มีความน่าเชื่อถือมักมาพร้อมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ทำให้ราคาปลูกผมถาวรอาจสูงกว่าคลินิกทั่วไป
• โปรโมชั่นและแพ็กเกจ โดยหลายคลินิกมีโปรโมชันหรือแพ็กเกจราคาพิเศษ ซึ่งอาจรวมบริการหลังการปลูกผม เช่น การฉีด PRP หรือการสระผมหลังการผ่าตัด

ทั้งนี้ โดยเฉลี่ยแล้วราคาปลูกผมในคลินิกรักษาผมบางผมร่วง มักคิดเป็นราคาต่อกราฟต์ โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 40-200 บาทต่อกราฟต์ ซึ่งหากคิดเป็นค่าใช้จ่ายโดยรวมสำหรับการปลูกผมประมาณ 1,500-4,000 กราฟต์ ราคาจะอยู่ระหว่าง 80,000-300,000 บาท ขึ้นอยู่กับคลินิกและปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น

อย่างไรก็ดี ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินจำนวนกราฟต์ที่เหมาะสมกับปัญหาผมของคุณ และขอข้อมูลราคาที่ชัดเจนจากคลินิกที่คุณสนใจก่อนตัดสินใจ