fb pixel
Line facebook instagram linkedin

วันอังคาร - อาทิตย์ 10:00 - 19:00
ติดต่อ 064 196 3539

ยาลดผมร่วง Finasteride vs Minoxidil เลือกใช้อันไหนดี ?

เข้าใจกลไกยาลดผมร่วง Finasteride และ Minoxidil ในทุกมิติ ทั้งผลลัพธ์ที่คาดหวัง ผลข้างเคียง และข้อแนะนำว่าควรใช้ตัวไหนดี เพื่อผลลัพธ์ระยะยาวอย่างปลอดภัย

ยาฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) กับ ไมนอกซิดิล (Minoxidil

มีอาการผมร่วงหรือผมบาง ? ไม่ใช่คุณคนเดียวแน่นอนที่ต้องเผชิญภาวะดังกล่าว เพราะ 2 ใน 3 ของผู้ชายจะประสบอาการผมบางจากกรรมพันธุ์ก่อนอายุ 35 ปี อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมียาลดผมร่วง 2 ตัวที่มีผลการวิจัยรองรับว่าสามารถลดอาการผมร่วงได้จริง นั่นก็คือยาฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) กับ ไมนอกซิดิล (Minoxidil) ทว่า ก่อนจะเริ่มใช้ก็จำเป็นต้องความเข้าใจเกี่ยวกับยาทั้ง 2 ตัวอย่างรอบด้านเสียก่อน

ยาลดผมร่วง Finasteride คือที่จะทำการยับยั้งการสร้างของฮอร์โมน DHT

ยาลดผมร่วง Finasteride กับ Minoxidil ต่างกันอย่างไร ?

ยาลดผมร่วง Finasteride คือตัวยา 5-alpha reductase inhibitor ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่จะทำการยับยั้งการสร้างของฮอร์โมน DHT (#dihydrotestosterone) ในร่างกาย โดย DHT ถือเป็นฮอร์โมนหลักที่ทำให้เกิดการผมร่วง ปกติแล้วผู้ชายทุกคนจะมีฮอร์โมน DHT ทว่า สำหรับกลุ่มคนที่พบปัญหาผมร่วง พวกเขาจะมีปฏิกิริยากับ DHT มากกว่าและเซลล์รากผมของพวกเขาอ่อนแอต่อ DHT มากกว่า จึงทำให้รากผมค่อย ๆ ถูกโจมตีและบางจนร่วงไปในที่สุด Finasteride จึงเป็นยาที่แก้ปัญหาตรงจุดที่สุด โดยการสร้าง DHT และหยุดการโจมตีนั่นเอง

ส่วนยาลดผมร่วง Minoxidil คือยาที่ออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือด (Vasodilator) ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากการรักษาโรคความดันโลหิตสูง แต่ภายหลังพบว่าสามารถช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะผมบางจากกรรมพันธุ์ เมื่อใช้ Minoxidil บนหนังศีรษะ ยาจะช่วยขยายเส้นเลือดใต้ผิวหนัง ทำให้มีออกซิเจนและสารอาหารหล่อเลี้ยงรากผมได้ดีขึ้น ส่งผลให้วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมกลับมาเป็นปกติ เส้นผมที่บางหรือหยุดงอกไปแล้วจะเริ่มแข็งแรงขึ้น หนาขึ้น และดูมีชีวิตชีวามากขึ้นอีกครั้ง

กล่าวโดยสรุป Finasteride ทำหน้าที่ “หยุด” สาเหตุหลักของผมร่วงจากภายใน โดยลดระดับฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของการทำลายรากผม ในขณะที่ Minoxidil ช่วย “เร่ง” การเจริญเติบโตของเส้นผมจากภายนอก ด้วยการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะ เรียกว่าทั้งสองทำงานคนละกลไกอย่างชัดเจน

ใช้ยาลดผมร่วง Finasteride ทุกวันเป็นเวลา 5 ปี มีอาการผมบางลดลง

การรับรองของยาลดผมร่วง Finasteride และ Minoxidil

ถึงแม้จะมียาเกี่ยวกับเส้นผมในท้องตลาดมากมาย แต่ Finasteride และ Minoxidil ยังคงเป็นสองตัวยาหลักที่ได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยาของทั้งสหรัฐอเมริกา (FDA) และประเทศไทย ว่าสามารถลดอาการผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ในผู้ชายได้จริง โดยเฉพาะเมื่อใช้เป็นประจำและต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์

งานวิจัยระยะยาวจากสหรัฐฯ พบว่าผู้ชายกว่า 90% ที่ใช้ยาลดผมร่วง Finasteride ทุกวันเป็นเวลา 5 ปี มีอาการผมบางลดลงหรือหยุดร่วงโดยสิ้นเชิง ในขณะที่อีกการศึกษาที่ติดตามผลกว่า 120 สัปดาห์ พบว่าผู้ใช้ Minoxidil มีจำนวนเส้นผมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (Placebo)

การใช้ยาลดผมร่วง Finasteride และ Minoxidil

Finasteride และ Minoxidil มีกี่รูปแบบ ใช้อย่างไร ?

  • ยาลดผมร่วง Finasteride นั้นมีแค่เฉพาะรูปแบบยาเม็ด โดยรับประทานวันละ 1 เม็ด อย่างต่อเนื่อง และควรรับประทานให้ตรงเวลาในแต่ละวันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
  • ยาลดผมร่วง Minoxidil มีทั้งแบบกิน โดยรับประทานวันละ 1 เม็ด รวมถึงมีรูปแบบโฟมและสเปรย์สำหรับทาบนผิวหนังด้วย โดยทั้ง 2 รูปแบบมีประสิทธิภาพคล้ายกัน อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ Minoxidil แบบทาหรือแบบรับประทาน ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะอาจมีผลข้างเคียงหรือข้อควรระวังแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

ต้องใช้ยาทั้งสองตัวนานแค่ไหนจึงจะเห็นผล ?

โดยทั่วไปแล้ว การใช้ยาลดผมร่วง Finasteride และ Minoxidil จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3–6 เดือน จึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์เบื้องต้น และควรใช้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานจึงจะเห็นผลเต็มที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล เช่น ความรุนแรงของภาวะผมบาง อายุ และการตอบสนองของร่างกายต่อตัวยา

ผู้หญิงสามารถใช้ Finasteride กับ Minoxidil ได้หรือไม่ ?

ยาลดผมร่วง Minoxidil สามารถใช้ในผู้หญิงได้ โดยเฉพาะในรูปแบบโฟมหรือสเปรย์ทา ซึ่งได้รับการรับรองจาก FDA สำหรับการรักษาภาวะผมบางในเพศหญิง ส่วน Finasteride ไม่แนะนำให้ใช้ในผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์หรือกำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากยานี้อาจมีผลกระทบต่อฮอร์โมนเพศและพัฒนาการของทารกในครรภ์

หากหยุดใช้ Finasteride หรือ Minoxidil ผมจะร่วงอีกหรือไม่ ?

หากหยุดใช้ยา Finasteride หรือ Minoxidil อย่างกะทันหัน ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษาอาจค่อย ๆ ลดลง และภาวะผมร่วงเดิมอาจกลับมาอีกภายในไม่กี่เดือน โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดจากกรรมพันธุ์ เพราะรากผมยังคงไวต่อปัจจัยเดิม ดังนั้นผู้ที่ได้รับผลดีจากการรักษาแล้วควรใช้ยาอย่างต่อเนื่องภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อรักษาผลลัพธ์ระยะยาวและป้องกันผมร่วงซ้ำ

การเลือกยาลดผมร่วง Finasteride และ Minoxidil

ควรเลือกใช้ Finasteride หรือ Minoxidil ดี ?

ทั้งยาลดผมร่วง Finasteride และ Minoxidil ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการรักษาภาวะผมร่วงจากกรรมพันธุ์ โดยมีกลไกการออกฤทธิ์ วิธีการใช้ และผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงมักแนะนำให้ใช้ยาทั้งสองร่วมกัน เพื่อช่วยเสริมฤทธิ์กันและกันและเพิ่มโอกาสในการฟื้นฟูเส้นผมอย่างมีประสิทธิภาพ

การเริ่มต้นการรักษาอย่างถูกวิธีภายใต้คำแนะนำของแพทย์ คือก้าวสำคัญในการชะลอปัญหาผมบาง และฟื้นความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง สิ่งสำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอ ความอดทน และความมุ่งมั่น เพราะผลลัพธ์จากการรักษาผมร่วงต้องใช้เวลาและการดูแลอย่างต่อเนื่อง

ถ้าคุณกำลังสงสัยว่ายาลดผมร่วง Finasteride หรือ Minoxidil เหมาะกับสภาพเส้นผมของคุณหรือไม่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่ Bangkok Hair Clinic เราพร้อมให้คำแนะนำด้านการรักษาผมร่วงอย่างตรงจุด ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และเครื่องมือที่ทันสมัย สามารถติดต่อได้ทาง Line: @bangkokhairclinic (มี @ ด้วย) หรือโทร. 02 118 7386, 064 196 3539 หรือส่งอีเมลมาที่ bangkokhairclinic@gmail.com




ปรึกษาแพทย์ฟรี วันนี้

    lineline messagemessage callcall