
7 ไอเดียทรงผมแม่ลูกอ่อน รับมือผมร่วงหลังคลอดอย่างสบายใจ
หลังคลอดลูก คุณแม่หลายคนมักพบว่าเส้นผมเริ่มหลุดร่วงมากผิดปกติ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะระดับเอสโตรเจนที่ลดลงอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่เดือนหลังคลอด ทำให้เส้นผมที่เคยอยู่ในระยะเจริญเติบโตพร้อมกัน กลับเข้าสู่ระยะหลุดร่วง (Telogen Phase) จนดูเหมือนผมบางลงอย่างชัดเจน
แม้ปัญหานี้จะเป็นเรื่องธรรมชาติที่สามารถฟื้นฟูได้ในระยะเวลา 6-12 เดือน แต่สำหรับคุณแม่วัยทำงานที่ต้องออกไปพบปะผู้คน หรือรู้สึกขาดความมั่นใจเมื่อเห็นผมบางลงทุกวัน การจัดทรงผมให้เหมาะสมจะช่วยอำพรางและเสริมบุคลิกได้ !
ทรงผมคุณแม่หลังคลอดที่ช่วยเพิ่มวอลูมให้เส้นผมดูหนาขึ้นแบบไม่ต้องเซตอะไรเยอะ โดยเฉพาะบริเวณข้างศีรษะที่มักบางลงหลังคลอด นอกจากนี้ ความยาวที่อยู่ในระดับคางหรือประบ่ายังช่วยให้สามารถจัดทรงง่าย ประหยัดเวลา เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องคอยดูแลลูกเล็กตลอดวัน
แนะนำให้เปลี่ยนตำแหน่งการแสกผมเป็นระยะ เพื่อไม่ให้รอยแสกเดิมเผยให้เห็นหนังศีรษะชัดเกินไป วิธีนี้จะช่วยกระจายแรงดึงผม ลดความตึงเครียดที่หนังศีรษะ และทำให้ผมดูหนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ทรงผมแม่ลูกอ่อนทรงนี้เหมาะสำหรับวันที่ต้องการความคล่องตัวขณะดูแลลูกน้อย โดยการมัดครึ่งศีรษะจะช่วยเก็บผมส่วนหน้าที่อาจชี้ฟูหรือบางลง พร้อมกับปล่อยผมส่วนหลังเพื่อเพิ่มความพลิ้วไหวและดูมีวอลูม
การดัดลอนขนาดใหญ่แบบหลวม ๆ ไม่เพียงเพิ่มความหนาให้กับเส้นผมเท่านั้น แต่ยังช่วยเบี่ยงสายตาของผู้พบเห็นออกจากจุดที่ผมบาง เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน หรือมีประชุมออนไลน์บ่อย ๆ แต่แนะนำให้ดัดลอนแบบไม่ใช้ความร้อน เช่น ลอนม้วนจากโรล หรือถักเปียหลวม ๆ ทิ้งไว้ก่อนนอน เพื่อป้องกันไม่ให้ผมเสียหายจากการโดนความร้อนเป็นประจำ
ทรงผมคุณแม่หลังคลอดที่มีแนวโน้มผมบางบริเวณหน้าผาก เพราะทรงผมม้าปัดข้างจะช่วยปกปิดแนวผมที่ถอยร่นและเสริมกรอบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ โดยไม่ต้องเซตเยอะหรือพึ่งผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากเกินไป
การมัดผมต่ำแบบหลวม ๆ จะช่วยลดแรงดึงบริเวณโคนผม ไม่กดทับหนังศีรษะมากเกินไปจนทำให้ผมร่วงเพิ่ม เหมาะสำหรับวันที่ต้องการความคล่องตัวหรือลุคสุภาพ
เป็นทรงผมแม่ลูกอ่อนที่ดูแลรักษาง่าย เพียงใช้หวีหรือเครื่องหนีบม้วนปลายผมเข้าด้านในเล็กน้อย จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่นุ่มนวล พร้อมพรางผมบางบริเวณปลายผมได้อย่างแนบเนียน
แม้การเลือกทรงผมแม่ลูกอ่อนที่เหมาะสมจะช่วยเสริมความมั่นใจได้มาก แต่ก็ยังมีข้อควรระวังบางประการที่ไม่ควรมองข้าม เช่น
ไม่ว่าจะเป็นการมัดหางม้าสูง ถักเปียแน่น ๆ หรือรวบผมตึงทุกวัน อาจเร่งให้เส้นผมหลุดร่วงมากขึ้นจากแรงดึงที่รากผม ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะผมร่วงจากแรงดึง (Traction Alopecia)
การหนีบ ไดร์ หรือม้วนผมด้วยอุณหภูมิสูงบ่อยครั้งจะทำให้เส้นผมอ่อนแอและเปราะบาง หากจำเป็นต้องทำจริง ๆ ควรเลือกอุปกรณ์ที่ควบคุมความร้อนได้ หรือใช้สเปรย์ป้องกันความร้อนก่อนจัดแต่งทรงผมเสมอ
หลีกเลี่ยงการย้อม ยืด หรือดัดผมถาวรในช่วง 6 เดือนหลังคลอด โดยเฉพาะการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอมโมเนีย พาราเบน หรือซิลิโคน เพราะอาจทำให้หนังศีรษะระคายเคืองและเร่งการหลุดร่วงของเส้นผมให้มากขึ้นได้
นอกจากทรงผมคุณแม่หลังคลอดที่ช่วยอำพรางผมบางได้แล้ว การดูแลสุขภาพเส้นผมจากภายในก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน !
เพราะสารเหล่านี้อาจทำให้หนังศีรษะแห้งหรือลอกเป็นขุยได้ง่าย แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพหนังศีรษะในช่วงหลังคลอด เพื่อให้ผมและหนังศีรษะฟื้นตัวได้อย่างอ่อนโยน และไม่กระตุ้นให้ผมร่วงเพิ่ม
ช่วยป้องกันปัญหาผมพันกัน และลดการขาดหลุดร่วงระหว่างหวีผม โดยเฉพาะบริเวณปลายผมยิ่งต้องได้รับการบำรุงเป็นพิเศษ
เช่น น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ หรือน้ำมันโจโจ้บา ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและส่งเสริมการงอกใหม่ของเส้นผม
เช่น ไข่แดง เครื่องในสัตว์ ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืชไม่ขัดสี ปลาทะเล ฯลฯ เพื่อบำรุงรากผมจากภายใน และลดภาวะผมร่วงในระยะยาว
หากลองดูแลด้วยวิธีต่าง ๆ แล้ว แต่ปัญหาผมร่วงหลังคลอดยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะผมบางหรือศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ร่วมด้วย การปลูกผมอาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ในระยะยาว
สนใจปรึกษาเรื่องการปลูกผมด้วยเทคนิคต่าง ๆ กับแพทย์ของเรา สามารถจองคิวปรึกษาฟรีได้ที่ Bangkok Hair Clinic หรือติดต่อผ่านช่องทาง Line: @bangkokhairclinic โทร. 02 118 7386 และ Email: bangkokhairclinic@gmail.com เรามีทีมงานมืออาชีพที่คอยให้บริการและตอบทุกคำถามที่คุณสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคนิคการปลูกผมแบบไหนที่เหมาะสำหรับคุณ ปลูกผมพักฟื้นกี่วัน ไปจนถึงการดูแลเส้นผมอย่างไรไม่ให้ขาดหลุดร่วง เพื่อให้คุณแม่สามารถกลับมามั่นใจในทุกลุค ทุกวัน และทุกบทบาทในชีวิตอีกครั้ง
ข้อมูลอ้างอิง