เกี่ยวกับเรา
ยืดผมแล้วผมร่วงเกิดจากอะไร ? เผยสาเหตุลึกถึงรากพร้อมวิธีดูแล
บุคลิกภาพและภาพลักษณ์ล้วนมีบทบาทสำคัญต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิต การมีผมที่เรียบตรงและดูเงางามจึงเป็นอีกหนึ่งความฝันของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่ต้องพบปะผู้คนอยู่เสมอ “การยืดผม” จึงกลายเป็นหนึ่งในบริการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันก็มีคำถามที่หลายคนสงสัยว่า หากยืดผมบ่อย ๆ จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงได้จริงไหม ? วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบ
กระบวนการยืดผม ทำงานอย่างไร ?
การยืดผม (Hair Straightening) คือ กระบวนการเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีของเส้นผม เพื่อให้ผมที่มีลักษณะหยิก หยักศก หรือชี้ฟู กลายเป็นเส้นตรง โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. การใช้สารเคมีคลายพันธะโปรตีนเคราติน
สารจำพวก Ammonium Thioglycolate หรือ Sodium Hydroxide ถูกนำมาใช้เพื่อทำลายพันธะไดซัลไฟด์ (Disulfide Bond) ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักที่ทำให้เส้นผมงอหรือเป็นลอน
2. การจัดรูปทรงใหม่ของเส้นผม
หลังจากคลายพันธะเส้นผมแล้ว จะมีการรีดผมให้ตรงและใช้สาร Neutralizer เพื่อทำให้เส้นผมคงรูปร่างใหม่ไว้ ไม่กลับมาหยิกหรือหยักศกภายในเร็ววัน
3. การใช้ความร้อนจากอุปกรณ์ไฟฟ้า
การหนีบผมหรืออบไอน้ำเพื่อเปิดเกล็ดผม จะช่วยให้สารเคมีแทรกซึมลงไปได้ลึกยิ่งขึ้น แม้จะให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนและสวยงาม แต่หากทำบ่อยครั้งก็สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพของเส้นผมและหนังศีรษะได้เช่นกัน
ยืดผมแล้วผมร่วงจริงไหม เกิดจากอะไร ?
คำตอบคือ “จริง” โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ได้รับการดูแลเส้นผมหลังยืดอย่างเหมาะสม หรือยืดผมถี่เกินไป โดยสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงจากการยืดผมมีหลายปัจจัย ได้แก่
การทำลายโปรตีนในเส้นผม
เส้นผมของมนุษย์ประกอบไปด้วยโปรตีนเคราติน (Keratin) ซึ่งมีหน้าที่สร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และรักษาโครงสร้างของเส้นผมให้มีสุขภาพดี แต่การยืดผมจำเป็นต้องใช้สารเคมีในการคลายพันธะโครงสร้างของเคราติน เพื่อเปลี่ยนลักษณะของเส้นผมจากหยิกหรือหยักศกให้ตรงเรียบตามต้องการ หากทำซ้ำบ่อย ๆ โดยไม่เว้นช่วงพักประมาณ 6 เดือนหรือมากกว่านั้น เส้นผมจะสูญเสียความแข็งแรง กลายเป็นผมแห้ง เปราะ แตกหักง่าย และหลุดร่วงในที่สุด
หนังศีรษะได้รับผลกระทบจากสารเคมีและความร้อน
นอกจากจะส่งผลกระทบต่อเส้นผมแล้ว การยืดผมยังมีผลโดยตรงต่อหนังศีรษะ ซึ่งเป็นต้นทางของสุขภาพเส้นผมทั้งหมดอีกด้วย เพราะสารเคมีที่ใช้ในการยืดผมมีฤทธิ์กัดกร่อนโครงสร้างโมเลกุลของโปรตีนในระดับเข้มข้น หากสัมผัสสารเหล่านี้กับหนังศีรษะโดยตรง อาจก่อให้เกิดอาการแสบร้อน ระคายเคือง ผิวหนังแดง หรือแม้กระทั่งลอกเป็นขุย ในบางกรณีอาจทำให้เกิดภาวะรูขุมขนอักเสบ (Folliculitis) และนำไปสู่การอุดตันของรูขุมขน ทำให้เส้นผมไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้
เพิ่มความเสี่ยงของภาวะ Traction Alopecia
Traction Alopecia คือภาวะผมร่วงจากแรงดึงรั้งที่กระทำต่อเส้นผมและหนังศีรษะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการมัดผมแน่น การถักเปีย หรือแม้แต่การรีดผมขณะยืด ซึ่งต้องใช้แรงดึงมากกว่าปกติเพื่อให้เส้นผมแนบสนิทและตรงที่สุด หากทำซ้ำ ๆ จะส่งผลต่อรูขุมขนโดยตรง ซึ่งบริเวณที่มักได้รับผลกระทบมากที่สุดคือช่วงไรผม หน้าผาก ขมับ และท้ายทอย
ยืดผมบ่อย อันตรายไหม ?
แม้การยืดผมเพียงครั้งเดียวอาจไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาหนักในทันที แต่หากยืดผมบ่อยเกินไป โดยเฉพาะถี่กว่า 3-4 ครั้งต่อปี หรือใช้บริการร้านที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้สุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ และเพิ่มความเสี่ยงของภาวะผมร่วงเรื้อรังได้
กลุ่มที่ควรระวังเป็นพิเศษ ได้แก่
- กลุ่มคนที่ยืดผมถี่กว่า 3-4 ครั้งต่อปี หรือใช้บริการร้านที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ผู้ที่มีผมบางหรือหนังศีรษะไวต่อการระคายเคือง
- ผู้ที่มีประวัติผมร่วงในครอบครัว
- ผู้ที่กำลังมีปัญหาผมร่วง หรืออยู่ระหว่างรักษาด้วยยาหรือเวชสำอาง
ผมร่วงจากการยืดผม แก้ไขได้หรือไม่ ?
หากเป็นปัญหาชั่วคราว
ปัญหาการยืดผมแล้วผมร่วงที่เกิดจากการทำลายโครงสร้างเส้นผมหรือความร้อน อาจสามารถฟื้นฟูได้ด้วยการพักการทำเคมี และใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่ช่วยซ่อมแซมเส้นผม เช่น มาส์กเคราติน เซรั่มฟื้นฟู น้ำมันบำรุงปลายผม
หากเกิดภาวะผมร่วงถาวร
ในกรณีที่ผมไม่ขึ้นใหม่เป็นระยะเวลานาน หรือมีแนวโน้มบางลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะบริเวณไรผมหรือกลางศีรษะ การฟื้นฟูด้วยผลิตภัณฑ์ทั่วไปอาจไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเส้นผมโดยตรง เพื่อประเมินความเสียหายของรากผมและวางแผนการรักษาที่ตรงจุด
หากกำลังประสบปัญหาผมบางหลังยืดผม หรือรู้สึกว่าเส้นผมไม่แข็งแรงเหมือนเดิม การดูแลให้ลึกถึงระดับรากผมคือสิ่งสำคัญ โดยหนึ่งในวิธีที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์ คือ การฉีด GFC (Growth Factor Concentrate) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้พลาสมาเข้มข้นจากเลือดตัวเองมาผ่านกระบวนการเฉพาะ เพื่อกระตุ้นผมเกิดใหม่ ฟื้นฟูเซลล์รากผมให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เส้นผมที่ขึ้นใหม่จึงแข็งแรง ดูหนาแน่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถจองคิวปรึกษาฟรีได้ที่ Bangkok Hair Clinic หรือติดต่อผ่านช่องทาง LINE @bangkokhairclinic โทร. 02 118 7386 และ Email: bangkokhairclinic@gmail.com
ข้อมูลอ้างอิง
- Effects of chemical straighteners on the hair shaft and scalp. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 จาก https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC9073307/.
