วิธีสระผมแบบแห้งด้วย Dry Shampoo ผมหายมันภายในไม่กี่นาที

Dry Shampoo คืออะไร ? ทำความรู้จักผลิตภัณฑ์สระผมแบบแห้ง

Dry Shampoo คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมที่ไม่ต้องใช้น้ำ มักประกอบด้วยแป้งข้าวโพด แป้งข้าวโอ๊ต และดินเบนโทไนต์ ซึ่งจะทำหน้าที่ช่วยดูดซับความมันและเหงื่อบนเส้นผม พร้อมส่วนผสมที่ให้กลิ่นหอม ทำให้เส้นผมดูสะอาดและมีกลิ่นหอมในเวลาอันรวดเร็ว วิธีสระผมแบบแห้งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด ต้องการความสะดวกรวดเร็ว หรือในสถานการณ์ที่ไม่สามารถสระผมแบบปกติได้

ข้อดีของ Dry Shampoo ที่คุณควรรู้

ก่อนจะไปเรียนรู้วิธีสระผมแบบแห้ง มาดูข้อดีของ Dry Shampoo กัน !

• ประหยัดเวลา ช่วยให้คุณมีผมที่ดูสะอาดในเวลาเพียงไม่กี่นาที
• ช่วยยืดระยะเวลาระหว่างการสระผมแต่ละครั้ง ทำให้เส้นผมไม่แห้งเสียจากการสระมากเกินไป
• ช่วยให้ผมมีวอลุ่ม ลดความมัน ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติ
• พกพาสะดวก นำไปใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา
• ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยให้ผมมีกลิ่นหอมสดชื่นเหมือนเพิ่งสระผมมา

ประเภทของ Dry Shampoo

1. Dry Shampoo แบบผงแป้ง – Dry Shampoo ลักษณะนี้หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันอยู่บ้าง เพราะสามารถคุมความมันได้ค่อนข้างดี ทั้งยังใช้งานสะดวก โดยสามารถโรยบนหนังศีรษะได้ แต่ข้อระวัง คือ ไม่ควรใช้ในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้หนังศีรษะเป็นดวงและอาจทำให้ผมดูขาวเกินไป นอกจากนี้ หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง อาจทำให้เลอะเทอะได้ง่าย
2. Dry Shampoo แบบสเปรย์ – เป็น Dry Shampoo อีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะใช้ง่าย และมีกลิ่นหอมติดทนนาน แต่สำหรับใครที่ใช้ครั้งแรก และยังไม่แน่ใจว่า Dry Shampoo แบบสเปรย์ใช้ยังไง แนะนำว่าควรฉีดให้ห่างจากเส้นผมประมาณ 15-20 เซนติเมตร เพื่อให้เนื้อผลิตภัณฑ์กระจายตัวได้ดีและไม่ให้เกิดคราบขาวบนเส้นผม
3. Dry Shampoo แบบเนื้อโฟมหรือเนื้อมูส – จะมีเนื้อสัมผัสละเอียด คล้าย ๆ กับมูสจัดแต่งทรงผมทั่วไป ข้อดีของ Dry Shampoo ที่เป็นเนื้อลักษณะนี้จะสามารถเคลือบเส้นผมได้ดี ทั่วถึงตั้งแต่โคนผมจรดปลาย แต่ข้อควรระวัง คือ หากใช้ในปริมาณมากจนเกินไปอาจทำให้เกิดรังแคได้

Dry Shampoo ใช้ยังไงให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ?

สำหรับวิธีสระผมแบบแห้งด้วย Dry Shampoo นั้น ส่วนใหญ่จะมีรายละเอียดปรากฏที่ฉลากข้างขวดชัดเจนอยู่แล้ว ทว่าหลายคนอาจละเลยและใช้ผิดวิธีอยู่บ้าง ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันและภาวะผมหลุดร่วงได้มากกว่าปกติ ดังนั้น หากถามว่า Dry Shampoo ใช้ยังไง คำตอบอยู่ที่นี่แล้ว !

• ฉีดให้ห่างจากเส้นผม 15-20 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้ Dry Shampoo กระจุกตัวกันเป็นแป้งขาว ๆ บนเส้นผม ส่วน Dry Shampoo ที่มีเนื้อเป็นแป้ง ควรใช้ปริมาณที่ไม่เยอะจนเกินไปเพื่อไม่ให้หนังศีรษะเป็นดวงและไม่ดูเลอะเทอะ
• ฉีดหรือโรยให้ถึงโคนผม เพื่อให้ Dry Shampoo สามารถดูดซับความมันส่วนเกินได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหากเราฉีดแค่ตามเส้นผม จะทำให้ความมันยังคงอยู่
• ไม่ควรใช้ Dry Shampoo แทนการสระผมจริง ๆ เพราะ Dry Shampoo ทำได้เพียงดูดซับความมันส่วนเกิน และช่วยขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เท่านั้น ไม่ได้มีส่วนช่วยในการทำความสะอาดผมเหมือนการสระผมจริงแต่อย่างใด
• ควรสระผมให้เกลี้ยงทุกครั้งหลังใช้ Dry Shampoo เพื่อเอาคราบ Dry Shampoo ที่หลงเหลืออยู่ออกให้หมด ลดความเสี่ยงในการอุดตันรูขุมขนและเลี่ยงสาเหตุของอาการผมร่วงในอนาคต

จะเห็นได้ว่า หากใช้ Dry Shampoo อย่างถูกวิธีก็จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี แต่หากใช้แบบผิดวิธีจะมีข้อเสียตามมา และที่ร้ายแรงที่สุด คือ หากไม่ทำความสะอาดเส้นผมหลังจากใช้ Dry Shampoo จะไปจับตัวกับสิ่งสกปรก ซึ่งจะส่งผลให้อุดตันรูขุมขนบนหนังศีรษะ และจะเกิดภาวะผมร่วงมากกว่าปกติ ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ อาจทำให้เกิดภาวะศีรษะล้านได้ในที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลเส้นผม หรือต้องการแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบางอย่างถาวร Bangkok Hair Clinic  เป็นคลินิกให้บริการปลูกผมถาวรย่านทองหล่อโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในวงการกว่า 10 ปี พร้อมให้คำปรึกษาและบริการที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมของคุณ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เครื่องมือนำเข้าจากต่างประเทศ เรามีทางเลือกการรักษาที่เหมาะสมด้วยเทคนิคการปลูกผมทันสมัยหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น

• ปลูกผมด้วยเทคนิค FUE Shaven เหมาะสำหรับผู้ต้องการแก้ไขปัญหาผมบางเฉพาะจุด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็น
• ปลูกผมด้วยเทคนิค FUE Non-Shaven สร้างแนวผมตามธรรมชาติ ไม่ต้องโกนผม ใช้เวลาฟื้นตัวสั้น
• ปลูกผมทาวร์ด้วยเทคนิค DHI (FUE with Implanter) ช่วยเพิ่มอัตราการรอดของรากเส้นผมถึง 10-15% ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ 

ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมที่ Bangkok Hair Clinic ได้เลยวันนี้ เพื่อรับคำแนะนำและวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ! E-mail: bangkokhairclinic@gmail.com หรือติดต่อเราช่องทางอื่น ๆ