fb pixel
Line facebook instagram linkedin

วันอังคาร - อาทิตย์ 10:00 - 19:00
ติดต่อ 064 196 3539

ก่อนใช้สเต็มเซลล์รักษาผมบาง คุณต้องรู้อะไรบ้าง?

สำหรับใครที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง และลองรักษาด้วยยาและแชมพูสูตรต่าง ๆ มาแล้วแต่ยังไม่พอใจในผลลัพธ์ แต่ก็ยังไม่พร้อมจะปลูกผมถาวรด้วยการผ่าตัดอยู่ดี วันนี้ เรามีอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษามาฝาก ซึ่งก็คือ สเต็มเซลล์รักษาผมบาง นั่นเอง

การใช้สเต็มเซลล์ของตัวเองรักษาผมบาง

รู้จักการใช้สเต็มเซลล์รักษาผมบางกันก่อน

การใช้สเต็มเซลล์ของตัวเองมารักษาผมบาง (Cell Plus Therapy) หรือเรียกอีกอย่างว่าการฉีดเซลล์รากผม เป็นวิธีการหนึ่งในการปลูกผมถาวร แต่แทนที่จะนำกราฟผมบริเวณท้ายทอยมาปลูกใหม่ แพทย์จะใช้เซลล์ต้นกำเนิดรากผมของคุณเองจากหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยซึ่งรากผมมีความแข็งแรงมากที่สุดมาฉีดในบริเวณที่มีปัญหา จากนั้นเซลล์จะกระตุ้นเซลล์รากผมให้เพิ่มจำนวนขึ้นใหม่ และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผมที่อ่อนแอให้ผลิตเส้นผมเพิ่มขึ้น

ฟังดูเหมือนง่าย แล้วจะเหมาะกับทุกคนหรือเปล่า? ก่อนจะรักษาปัญหาผมด้วยวิธีการนี้ เรามี 5 ความจริงที่คุณต้องรู้เพื่อประกอบการตัดสินใจมาฝาก ไปดูกันว่า วิธีการนี้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณแค่ไหน

5 ความจริงของการฉีดเซลล์รากผมที่คุณต้องทำความเข้าใจ

1. เหมาะกับคนผมบางที่ศีรษะยังไม่ล้านเถิกและรูขุมขนยังไม่ปิด

ภาวะผมบางจนศีรษะค่อย ๆ ล้านนั้นเกิดจากฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งพบมากน้อยแตกต่างกันในร่างกายของคนทุกเพศ โดยฮอร์โมนเพศชายจะทำให้ร่างกายผลิตไขมันออกมามากขึ้นจนไปอุดตันตามรูขุมขนบริเวณหนังศีรษะ ทั้งยังทำให้ผมที่งอกมาใหม่มีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ จนศีรษะล้านไปในที่สุด ซึ่งหากใครที่ศีรษะล้านเถิกจนรูขุมขนปิดไปแล้วจะไม่สามารถทำ Cell Plus Therapy ได้ เนื่องจากวิธีการนี้เป็นการฉีดเซลล์รากผมให้งอกขึ้นเองตามธรรมชาติ

2. ไม่ใช่แค่กระตุ้นรากผม แต่ยังช่วยปกป้องผมจากฮอร์โมน DHT

การฉีดสเต็มเซลล์รักษาผมบางไม่เพียงช่วยกระตุ้นรากผมให้แตกเซลล์จนงอกขึ้นมาใหม่กลายเป็นหนังศีรษะที่มีผมดกดำเหมือนเดิมเท่านั้น แต่ยังช่วยปกป้องรากผมจากฮอร์โมน Dihydrotestosterone (DHT) หนึ่งในฮอร์โมนเพศชายที่เป็นสาเหตุหนึ่งของผมร่วงและหนังศีรษะล้านอีกด้วย

หากใครมีฮอร์โมน DHT มากเกินไป ร่างกายก็จะกระตุ้นการผลิตไขมันออกมามากขึ้นจนไปอุดตันรูขุมขนตามที่เราได้กล่าวไว้คร่าว ๆ แล้วในข้อที่ 1 และนอกจากนี้ ฮอร์โมน DHT ยังส่งผลให้วงจรชีวิตของเส้นผมสั้นลงเรื่อย ๆ จนผมร่วงและล้านไปในที่สุดด้วย

โดยปกติแล้ว วงจรวัฏจักรเส้นผมของเรามี 3 ระยะ ได้แก่

  • Anagen หรือระยะงอกยาว ปกติจะมีระยะเวลา 3 – 10 ปี
  • Catagen หรือระยะหยุดโต กินเวลาประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ 
  • Telogen หรือระยะพักและหลุดร่วง มีระยะเวลา 3 – 4 เดือน

ซึ่งหากมีฮอร์โมน DHT มาก เส้นผมก็จะเติบโตหรืองอกยาวเร็วขึ้น แต่ก็จะร่วงเร็วขึ้นเช่นกัน

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกฉีดเซลล์รากผม

3. ฉีดเซลล์รากผมควบคู่กับวิธีการอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องเลือกทางเดียว

อีกวิธีที่คุณสามารถใช้รักษาปัญหาผมบางได้คือวิธี Cell Plus Therapy ร่วมกับการปลูกผมเทคนิคอื่น ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผมแบบ FUE FUT หรือ DHI เพื่อเสริมให้ได้ผลลัพธ์เป็นแนวผมที่หนาและดกดำมากยิ่งขึ้น และยังสามารถใช้กับผู้ที่เคยปลูกผมมาก่อนด้วยเทคนิคใด ๆ ก็ตาม แต่ยังอยากกระตุ้นรากผมเพิ่มอีกเพื่อความมั่นใจ

4. เหมาะกับผู้ที่มีรากผมไม่แข็งแรง

อาการผมร่วงและผมบางมีที่มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน หากผมร่วงจากกรรมพันธุ์หรือฮอร์โมนจนรูขุมขนปิดไปแล้วอาจจะใช้สเต็มเซลล์รักษาผมบางไม่ได้ หรือต้องใช้วิธีการอื่นควบคู่กันไปด้วย แต่หากเกิดจากรากผมไม่แข็งแรง วิธีการนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากทีเดียว

รากผมไม่แข็งแรง เกิดจากการที่เส้นผมและหนังศีรษะขาดการบำรุง ไม่ว่าจะด้วยการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทานอาหารรสจัด การขาดสารอาหารเพราะลดน้ำหนัก การดึงหรือหวีผมแรง ๆ เป็นประจำโดยเฉพาะขณะผมเปียก รวมไปถึงการสระผมด้วยน้ำอุ่นและการดัด ยืด ย้อมผม ซึ่งล้วนเป็นตัวการทำให้ผมเปราะบางและหลุดร่วงง่าย

5. การฉีดเซลล์รากผมไม่เหมือนกับการทำ PRP

การฉีดเซลล์รากผมอาจดูเผิน ๆ คล้ายกับวิธีการ PRP หรือ Platelet-Rich Plasma แต่ความจริงแล้ว ทั้งสองวิธีมีข้อแตกต่างกัน คือ

  • การฉีดเซลล์รากผม หรือ Cell Plus Therapy ใช้เซลล์ต้นกำเนิดรากผมฉีดเข้าไปเพื่อให้เส้นผมงอกใหม่ ในขณะที่ PRP ใช้ Concentrated Growth Factor ที่สกัดมาจากเกล็ดเลือด เปรียบเสมือนการให้อาหารเสริมเพื่อกระตุ้นเซลล์รากผมให้แข็งแรง
  • ระยะเวลาและผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกัน แบบ Cell Therapy จะมีขั้นตอนการทำที่ยากกว่า แต่ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า PRP เช่นกัน

จบกันไปแล้วสำหรับ 5 ความจริงที่คุณควรรู้ก่อนฉีดเซลล์รากผม ทีนี้ คุณคงพอประเมินได้คร่าว ๆ แล้วว่า สภาพหนังศีรษะและสาเหตุของอาการผมบางของคุณเหมาะกับการทำ Cell Plus Therapy หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีวิธีการใดที่เหมาะกับใครแบบ 100% ทุกอย่างขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจปลูกผม อย่าลืมไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง จะได้เลือกเทคนิคการปลูกและการฟื้นฟูที่เหมาะกับสาเหตุต้นตอของปัญหาที่สุด
หากคุณสนใจฟื้นฟูและบำรุงเส้นผมเพื่อให้ผมดกดำและแข็งแรงด้วยการใช้สเต็มเซลล์ของตัวเองรักษาผมบาง Bangkok Hair Clinic เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรักษาปัญหาผมมาแล้วมากมาย เราเน้นออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด โดดเด่นด้วยเครื่องมืออันทันสมัย แถมยังเดินทางง่ายเพราะคลินิกตั้งอยู่ใจกลางทองหล่อ

มีปัญหาเส้นผม ปรึกษาแพทย์ฟรีที่ Bangkok Hair Clinic 

E-mail: bangkokhairclinic@gmail.com หรือติดต่อเราช่องทางอื่น ๆ

lineline messagemessage callcall